คุยกันเป็นการเฉพาะตัว                                                                                                                                        เห็ดหัวลิง ดอกเห็ดรูปร่างเป็นก้อนวงรี เกีอบกลม สีขาว ถ้าแก่มากจะมีสีน้ำตาลอ่อน ในขณะดอกอ่อน ยังไม่แตกเป็นขน มีลักษณะคล้ายจาวมะพร้าว ถ้าเริ่มแก่จะแตกเป็นฝอยคล้ายหัวลิง จึงเป็นที่มาของชื่อเห็ดหัวลิง มีชื่อวิทยาศาสตร์ Hericium erinaceus(Bulliard:Fries)Person ฝรั้งเรียก Monkey" s Head ,Lion mane,Bear Head,Old Man" s Beard,Hedgehog Mushroom ,Satyr" s Beard,Pom Pom ญี่ปุ่นเรียก Yamabushi-Take คนจีนเรียก เหอโกวกู หรือ เก่าเถ้าโกว คนไทยเรียก เห็ดหัวลิง เห็ดปุยฝ้าย เห็ดภู่มาลา เห็ดหนุมาน เห็ดแผงสิงโต เห็ดหิมะก็มีคนเรียก

     ต้นกำเนิดของเห็ดชนิดนี้อยู่ที่เขตเฮอหลงเจียง ประเทศจีน ประเทศไทย นายฮั่งจง แซ่หลู เกษตรกรชาวจีนนำมาเพาะครั้งแรกที่ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย หลังจากน้้นได้มีผู้เพาะเห็ดชนิดนี้อีกหลายราย ศูนย์เห็ดล้านนาได้มีการเพาะเห็ดหัวลิงตั้งแต่ปีพ.ศ.2541 ที่จังหวัดเชียงใหม่

    ชาวจีนรู้จักเห็ดชนิดนี้มาเป็นระยะเวลานานมาก นับเป็นสุดยอดเห็ดสมุนไพรชนิดหนึ่ง แพทย์จีนโบราณใช้เห็ดชนิดนี้รักษาคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ อักเสบหรือเป็นมะเร็ง (ปัจจุบันยังใช้อยู่ ที่ทราบเนื่องจากีผู้มาขอซื้อเห็ดหัวลิงเพื่อไปใช้ในการรักษาโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหารหลายราย บางคนสอบถามแล้วเป็นโรคจริง แต่ไม่มีเงินก็ให้ไป) จากเอกสารและงานวิจัยที่เชื่อถือได้ พบว่าเห็ดหัวลิงมีสาร เบต้า ดี กูแคน สามารถป้องกัน และยับยั้งเซลมะเร็งต่อมลูกหมากได้ และมีการพบสารชนิดหนึ่งชื่อ Dilinoleoyl-phosphati-dylethanolamine มีผลสามารถกรtตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลประสาทเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้ความจำดี ป้องกันโรคอัลไซเมอร์      ปัจจุบันยังมีการนำเห็ดหัวลิงเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางช้ันนำระดับโลกทำโลชั่นประเทืองผิว ใช้ทำสบู่ ทำให้ใช้แล้วชุ่มชื้น ถนอมผิว

     ขณะนี้มีเครื่องดื่มบำรุงสมองชนิดหนึ่ง โฆษณาทางทีวี หนังสือพิมพ์  วารสาร ในชื่อเห็ดปุยฝ้าย หรือยามาบูชิตาเกะ ในรูปแบบสารสกัด เห็ดหัวลิงสามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลายชนิด อร่อยมาก เวลาเคี้ยวมีความนุ่มแต่ไม่เหนียว มีคุณสมบัติดูดซับเครื่องปรุงได้ดี จีงทำให้มีรสชาติ นิยมไปต้มจืด ผัด ทอด ทำซุป ข้อสำคัญสำหรับคนที่ไม่ชอบความขม ให้ลวกเห็ดหัวลิงด้วยน้ำเดือดทิ้ง 1 น้ำ ความขมจะหายไป

     ถ้ามีการส่งเสริมให้มีการกินหัวลิง น่าจะเป็นการดีต่อสุขภาพ